ดูดฝุ่นในรถอย่างไรให้สะอาดด้วยตัวคุณเอง
การดูแลรักษาความสะอาดภายในห้องโดยสารให้ปลอดฝุ่น ไร้เชื้อราและสิ่งสกปรกต่าง ๆ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้เวลาในรถยนต์นาน ๆ การดูแลรักษาความสะอาดภายในรถช่วยให้ผู้ใช้รถมีสุขอนามัยที่ดีและทำให้รถยนต์มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นอีกด้วย
ในการดูดฝุ่นและขจัดคราบสกปรก ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
1. เริ่มจากการจอดรถในที่โล่งแจ้ง เปิดประตูและกระจกหมดทุกด้าน การดูแลภายในนั้นมีจุดหลักใหญ่ ๆ คือเบาะรถยนต์ในห้องผู้โดยสารและบริเวณคอนโซลหน้า ควรเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นมือถือที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ใช้งานง่ายเพื่อความคล่องมือ
2. ขณะทำความสะอาดควรยืนอยู่เหนือลมเพื่อป้องกันการสูดดมฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจายซึ่งควรสวมหน้ากากกันฝุ่นตลอดเวลา เพราะถ้าหายใจเอาสปอร์ของเชื้อราหรือไรฝุ่นที่ตายแล้วเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้
พรมพื้นสะสมสิ่งสกปรกมาก มีเส้นผม เศษอาหาร ขนสัตว์ ควรเอาออกมาสลัดฝุ่นแล้วให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นอีกรอบ ก่อนจะผึ่งแดด
3. ในส่วนของเบาะนั่ง ให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นเป็นหลักในการดูดเศษฝุ่นละอองจากตัวเบาะรถยนต์ทั้งเบาะผ้ากำมะหยี่ เบาะหนังแท้หรือเบาะหนังสังเคราะห์ โดยปกติเครื่องดูดฝุ่นจะมีหัวขนาดเล็กเรียวเพื่อการเข้าถึงทุกซอกทุกมุมและหัวแบบแปรงขนนุ่มที่ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกออกจากพื้นผิวของเบาะรถยนต์ได้อย่างหมดจด เครื่องดูดฝุ่นมือถือรุ่นใหม่มีพลังแรงสูง สามารถกำจัดขนสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นผิวหุ้มเบาะรถยนต์อย่างได้ผล ไม่ควรลืมดูดฝุ่นในห้องสัมภาระด้านหลังด้วย
4. ส่วนเบาะหนังแท้หรือหนังเทียมให้ใช้น้ำสบู่อ่อน ๆ เช็ดคราบสกปรกให้สะอาด ไม่ควรใช้น้ำยาขัดเคลือบใด ๆ ที่มีสารโซเวนท์ หรือทินเนอร์มาเช็ดถูกที่เบาะหนัง เพราะจะเป็นการทำลายชั้นเคลือบของหนัง
5. สุดท้ายเป็นขั้นตอนการดูดฝุ่นบริเวณคอนโซลอย่างเบามือ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดตามกรอบสวิทช์ กรอบช่องแอร์ ถ้ามีคราบสกปรกติดแน่น ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ร่วมด้วยตามด้วยใช้ผ้านุ่มชุบน้ำยาเคลือบสำหรับป้องกันการแตกกรอบของชิ้นส่วนคอนโซลอีกชั้นหนึ่ง
ฝุ่นละอองเป็นปัญหาใหญ่ต่อสุขภาพ ความสะอาดในห้องโดยสารมีความสำคัญและควรเอาใจใส่อยู่เสมอ นอกจากการดูดฝุ่นทำความสะอาดด้วยตนเองเป็นประจำแล้ว ถ้าไม่มีเวลาบวกกับในรถมีคราบสกปรกฝังแน่นจนเกินเยียวยา คงต้องพึ่งศูนย์บริการคาร์แคร์ตามแต่โอกาสและงบประมาณจะอำนวย
Designed by Megaweb.co.th